ฟังหัวข้อแล้วชวนเศร้า แต่มันคือเรื่องจริงของคนๆ หนึ่ง หรืออีกหลายคนที่เคยมีความคิดแบบนี้ ซึ่งตามข่าวในโลกออนไลน์หรือหน้าหนังสือพิมพ์ทั่วไปนั้น เราก็จะเห็นเรื่องราวแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง จึงเคยมีความคิดในใจกับคนเหล่านี้ว่าทำไปทำไม แต่พอชีวิตเราได้เจออะไรขึ้นมาหลายๆอย่างจึงเริ่มเข้าใจว่าเรื่องราวแบบนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย
บางทีคนที่เราเดินผ่าน เพื่อนสนิท หรือญาติเรา หรือแม้แต่เราเองก็เคยคิดมาแล้ว! จริงๆแล้วนั้น บุคคลต่างๆที่มีความคิดเหล่านี้นั้นส่วนใหญ่ เกิดจากโรคซึมเศร้า ซึ่งมันเกิดจากที่คนเรามีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขมันออกจากหัวได้ (ต้องอธิบายกันก่อนว่าปัญหาที่แก้ได้จริง
กับปัญหาที่ต้องแก้ออกจากหัวหรือว่าความคิด) ซึ่งปัญหาที่แก้ได้จริงคือปัญหาที่มันมีอยู่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องงาน ปัญหาเรื่องหนี้สิน หรือปัญหาเรื่องความรัก สำหรับปัญหาเรื่องงานก็มีปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นกับตัวเราและเข้ามาในจิตใจเรา ส่วนปัญหาเรื่องหนี้สินก็คือปัญหาที่เกิดกับเราโดยตรงและกระทบกับจิตใจ
ซึ่งจะมีลักษณะใกล้เคียงกับปัญหาเรื่องความรัก แต่ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมานี้สามารถแก้ไขได้ถ้าคุณมองหาปัญหามันออกว่ามันเกิดจากอะไร เช่นเรื่องงาน คุณก็มองดูว่าปัญหาเกิดจากจุดไหน
เรื่องหนี้สินคุณก็ดูว่าเกิดจากอะไรทำไมถึงเป็นหนี้ เรื่องความรักก็ลองมองดูว่าเกิดจากเค้าหรือเรา แต่ปัญหาที่บอกว่าเกิดจากในหัวหรือความคิดนั้น มันคือตัวคุณเองกับล้วนๆ ซึ่งวิธีแก้นั้นฟังดูง่ายแต่ทำยาก โดยคุณต้องแก้ที่สองส่วน ส่วนแรกคือหัวใจ ส่วนสองคือความคิด ซึ่งหากเรามานั่งมองทีละส่วนนั้นจะเห็นว่า
ในส่วนของหัวใจคือ การยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะคนหลายคนมักจะยอมรับไม่ได้ในเมื่อต้องสูญเสียอะไรในสิ่งที่ตัวเองมี ดังนั้นจึงเกิดความเครียดและยิ่งถ้าเครียดมากๆ ก็จะทำให้เกิดโรคซึมเซาได้ง่ายขึ้น ซึ่งถ้าเมื่อใดคุณยอมรับกับการสูญเสียได้ คุณก็จะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ในส่วนที่สองนั้นคือความคิด หรือพูดตรงๆ
ก็คือวิธีคิดของคุณ เพราะถ้าเราคิดได้ว่าเราจะต้องทำอย่างไรต่อ และเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้อยู่รอดกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไรนั้น ตัวคุณเองก็จะรู้สึกผ่อนคลายและมองหาทางออกให้กับตัวเองได้
ดังนั้นเมื่อคุณจัดการสองส่วนนี้ได้คุณก็จะหลุดจากความคิดฆ่าตัวตาย เพราะคุณจะผ่านปัญหานั้นไปได้อย่างแน่นอน เชื่อผมเถอะ เพราะผมเคยคิดจะฆ่าตัวตายมาแล้ว!
สนับสนุนโดย sagame