นักฟิสิกส์สุดอัจฉริยะ

นักฟิสิกส์สุดอัจฉริยะ หากจะเอ่ยถึงนักวิทยาศาสตร์ทางด้านฟิสิกส์นั้นก็จะต้องนึกถึงเขาอย่างแน่นอนด้วยรางวัลการัยตรีความสามารถอย่างรางวัลโนเบล เขานั้นก็คือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์นั่นเอง เขานั้นได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลกด้วยการคิดสิ่งต่างๆทางวิทยาศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นสัมพันธภาพ สมาการที่เป็นจุดจุดประกายให้เขานั้นสามารถคิดค้น

และประดิษฐ์สิ่งต่างๆตามมาได้อีกมากมาย เขานั้นนับว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีความคิด แนวคิดที่ร่วมสมัย ทำให้สามารถคิดสิ่งต่างๆออกมาได้อย่างน่าสนใจ

เขานั้นมีเรื่องราวมากใยในชีวิตที่น่าสนใจมาดูกันว่ากว่าจะมาเป็นนักฟิสิกส์สุดอัจฉริยะนั้นในช่วงชีวิตที่ผ่านมาของเขาผ่านอะไรมาบ้าง

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เขานั้นเป็นคนที่มี 3 สัญชาติหลายๆคนอาจะยังไม่เคยรู้มาก่อน ด้วยชีวิตที่ต้องระหกระเหินของเขาและการเปลี่ยนสัญชาตินั้นก้ได้มาอย่างมาตั้งใจทำให้เขานั้นต้องมีการเปลี่ยนสัญชาติถึง 4ครั้งด้วยกัน นั่นก็คือสัญชาติเยอรมันและสวิตส์และกลับมาถือสัญชาติเยอรมันอีกครั้งก่อนที่เขานั้นจะย้ายถิ่นฐานและไปอาศัยอยู่ในอเมริกาและถือสัญชาติอเมริกาในที่สุด

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เกิดในครอบครัวเชื้อสายยิว ในประเทศเยอรมันทางครอบครัวของเขานั้นทำธุรกิจ ในช่วงการเติบโตของเขานั้นพบว่ามีความบกพร่องในเรื่องของการอ่าน แต่ถึงแม้ว่าเขานั้นจะมีความบกพร่องในการอ่านแต่สิ่งที่เขานั้นสามารถทำได้อย่างดีก็คือในเรื่องของคณิตศาสตร์ เขาสามารถทำได้อย่างดีและมีการค้นคว้าค้นหาในการเรียนต่างๆด้วยตนเอง

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เริ่มฉายแววความอัจฉริยะออกมาด้วยการเขียนบทความทางวิทยาศาสตร์และในตอนนั้นเขามีอายุเพียง16ปีเท่านั้น เข้าได้เข้าศึกษาในระดับวิทยาลัยในสถาบันการเรียนในสวิสเซอร์แลนด์และเมื่อเขาเรียนจบเขาก็ได้เข้าทำงานและได้รับปริญญาบัตรในระดับปริญเอกด้วยวัยเพียง26ปีเท่านั้น

เขานั้นสร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการออกมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเขานั้นมีอายุ 35ปีเขาก็ได้ย้ายกลับไปอยู่ที่เยอรมันและได้รับตำแหน่งในการเป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยเบอร์ลิน

และในสงครามโลกครั้งที่สองนั้น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ก็โดนหมายหัวจากนาซีทำให้เขานั้นต้องอพยพไปอยู่ในอเมริกาและเข้าก็ไม่ได้กลับไปเยอรมันอีกเลย สิ่งที่ทำให้อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นั้นได้รับการยอมรับและเป้นที่รู้จักของคนทั้งโลกก็น่าจะมาจากสูตร E=mc ยกกำลัง 2 ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจว่าเป็นสูตรของการสร้างนิวเคลียร์

แต่ความจริงแล้วนั้นสูตรนี้เป็นสูตรที่อธิบายความสัมพันธ์ของพลังงาน มวลสารและความเร็วของแสง ทำให้สูตรนี้นำไปพัฒนาไปเป้นสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระเบิดปรมาณู แต่สูตรนี้ก็ยังคงเป็นสูตรที่มีประโยชน์ทั้งในการสื่อสารทางการแพทย์ด้วย เขานั้นได้ถ่ายทอดหลักการและสมาการนี้ออกไปในช่วงอายุที่เขา 26 ปีเท่านั้นและเรียกได้ว่าในขณะนั้นเป็นปีทองของเขาและเขาก็ได้รับการยอมรับจากวงการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์รวมถึงวงการแพทย์ด้วย

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บตรง

เรื่องล่าสุด

หมวดหมู่

คลังเก็บ