คดีของน้องชมพู่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสามารถปิดคดีได้

       หาพูดถึงคดีที่เป็นข่าวโด่งดังมาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมานี้คงหนีไม่พ้นคดีของเด็กหญิงชมพู่เด็กหญิงวัยเพียง 3 ขวบที่หายตัวไปจากบ้านพักจนมาพบเป็นศพอีกครั้งหลังจากนั้นซึ่งแน่นอนว่าคดีนี้มีการหาตัวคนร้ายมาอย่างยาวนานกว่า 2 เดือนแล้วแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

ให้ทางประชาชนที่คอยติดตามข่าวสารนี้ได้รู้กันสักทีว่าท้ายที่สุดแล้วคนที่ฆ่าน้องชมพู่นั้นคือใครกันแน่ซึ่งตอนนี้ข่าวที่กำลังโด่งดังมากที่สุดก็จะมีคู่กรณีอยู่ 2 คนที่มีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นคนร้ายตัวจริงนั่น

ก็คือฝังลุงพลซึ่งเป็นลุงเขยที่รักน้องชมพู่มากถึงขนาดเคยออกปากจะขอนำน้องชมพู่มาเลี้ยงเป็นลูกของตนเองซึ่งเด็กหญิงชมพู่นั้นก็ติดลุงบนเป็นอย่างมากจนพ่อแม่นั้นค่อนข้างจะไม่พอใจที่ลูกของตนเองนั้นติดลุงพลมากจนเกินไปอย่างไรก็ตามอีกฝั่งหนึ่งที่ทางสังคมกำลังสงสัยและกำลังจับตามองกันอยู่มาก

ในขณะนี้ก็คือฝังพ่อแม่ของน้องชมพู่เองเนื่องจากว่าจากหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่นักข่าวได้มีการไปทำข่าวและสัมภาษณ์รวมถึงจากการที่ฟังสัมภาษณ์ของพ่อแม่ผ่านทางสื่อต่างๆเรามักจะเห็นคำพูดและวิธีการและการกระทำของพ่อกับแม่นั้นค่อนข้างที่จะสวนกระแสจากพ่อแม่ของคนอื่นในกรณีที่ลูกหาย

โดยมีความเชื่อกันว่าเมื่อพ่อแม่ที่ไหนก็ตามที่ลูกของตนเองหายออกจากบ้านนั้นก็ควรจะติดตามหาลูกด้วยตนเองแต่ในกรณีของน้องชมพู่นั้นพ่อกับแม่กลับไม่เคยออกตามหารูปของตัวเองเลยอีกครั้งเวลาลูกสาวคนโตให้ข่าวก็ให้ลูกสาวคนโตนั้นโกหกกับข้อมูลที่ให้บอกตำรวจและสื่อมวลชนรวมถึงหลายๆเรื่องที่พ่อกับแม่พูดออกผ่านสื่อนั้นทำให้ประชาชนที่ได้ติดตามข่าวสารต่างก็พากันสงสัยพ่อกับแม่มากกว่าจะสงสัยในตัวของลุงพลด้วยซ้ำไปปัจจุบันนี้

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเชิญตัวชาวบ้านทั้งหมู่บ้านมาให้ปากคำจนกลายทำให้ขนาดนี้ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านนั้นต่างก็ได้รับความเดือดร้อนกันเป็นอย่างมากหลายคนออกมาพูดถึงเรื่องของคดีน้องชมพู่ว่าทำให้ชีวิตของคนในหมู่บ้านนั้นเปลี่ยนไปเลยเพราะพวกเขาถูกจับตามองจากทุกคนในสังคมทั้งประเทศรวมถึงยังมีนักข่าวเข้าไปป้วนเปี้ยนในหมู่บ้านทำให้พวกเขานั้นรู้สึกว่าชีวิตของพวกเขา

ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปซึ่งหลายคนก็อยากให้คดีของน้องชมพู่นั้นปิดคดีได้เร็วๆและอยากจะรู้ด้วยว่าคนร้ายที่ฆ่าน้องชมพู่นั้นเป็นใครกันแน่ซึ่งเบื้องต้นตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสันนิษฐานเอาไว้ถึง 4 หัวข้อด้วยกันซึ่งหนึ่งในหัวข้อนั้นคือการที่เด็กนั้นเดินพลัดหลงเข้าไปในป่าและได้ปีนขึ้นเขาไปเอง

และหัวข้อนี้ทำให้ประชาชนนั้นไม่เชื่อเกี่ยวกับการทำคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่าที่ควรเพราะแน่นอนว่าหลายคนที่ได้มีโอกาสเดินทางไปที่จุดที่พบศพของเด็กนั้นต่างก็ยืนยันว่าไม่มีเด็กคนไหนที่จะสามารถเดินขึ้นเขามาตรงจุดนี้ได้เพราะขณะที่เป็นผู้ใหญ่ยังเดินขึ้นเขาจนเหนื่อยเพราะฉะนั้นเด็กขึ้นไปเองไม่ได้อย่างแน่นอนอย่างไรก็ตามเราคงต้องมาดูกันว่าสรุปแล้วก็ดีของน้อง ตำรวจจะตัดสินหาคนรายได้หรือไม่หรือจะกลายเป็นการปิดคดีแค่เพียงว่าเด็กหลงป่าและปีนขึ้นไปบนเขาขาดอาหารตายคนเดียวนั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.  ufabet

เรื่องล่าสุด

หมวดหมู่

คลังเก็บ